วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

อาหารบำรุงดวงตา

อาหารบำรุงดวงตา
ดวงตาเป็นอวัยวะที่ใช้สื่อความหมายได้มากมาย และที่สำคัญที่สุด คือ เป็นอวัยวะที่ใช้มองสิ่งต่างๆ รอบตัว จึงถือว่าเป็นส่วนที่จำเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราต้องรู้จักใช้ดวงตาอย่างถูกต้องและถะนุถนอม
คนในยุคปัจจุบันใช้สายตาหนักเกินไป เช่น  มองหน้าจอจอโทรศัพท์ นั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งวัน  ดูทีวีใกล้ ๆ เป็นต้น ทำให้เกิดอาการล้าสายตา  ทำให้เกิดอาการสายตาพร่ามัว ปวดเบ้าตา ลามไปถึงท้ายทอย หากมองจอมือถือนานๆ ก็จะได้รับอันตรายจากแสงสีฟ้าที่ออกมาจากจอมือถืออีกด้วย

การเลือกรับประทานพืชผักบางชนิดนอกจากทำให้ร่างกายแข็งแรงแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงดวงตาให้มองเห็นแจ่มแจ๋ว ไม่ร่วงโรยตามอายุได้อีกด้วย
นักโภชนาการยืนยันว่า วิตามินที่อยู่ในผัก-ผลไม้บางชนิดสามารถทำให้การมองเห็นยามค่ำคืนดีขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจะมุ่งกินแต่ผัก-ผลไม้อย่างเดียว ต้องมีปริมาณที่เหมาะสม จะทำให้ร่างกายได้ริบวิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ
หัวหน้าสถาบันด้านดวงตา กล่าวว่า สารอาหาร เช่น วิตามิน เอ, ซี, อี, โอเมกา3, ไขมัน และลูทีน เป็นสารที่จำเป็นที่ทำให้การมองเห็นดีขึ้น
ผัก-ผลไม้ที่ช่วยบำรุงรักษาดวงตามี อย่างคือ
1. แครอท ขึ้นชื่อว่าเป็นผัก-ผลไม้ที่มีสีส้ม แทบทั้งหมดมีส่วนประกอบของเบตาเคโรทีน ที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยดูดซึมพลังงานจากแสงที่ผ่านเข้ามาในดวงตา และช่วยปรับการมองเห็นให้ชัดขึ้นในที่มีแสดงน้อยอย่างตอนกลางคืน
ปริมาณที่ควรได้รับ : อย่างน้อย 1 หัวแครอทต่อวัน หรือจะแทนที่ด้วยมันเทศ หรือฟักทอง ทำมาปรุงกับน้ำมันมะกอกเล็กน้อย
2. ผักปวยเล้ง หรือ Spinach
ในผักสีเขียว เช่น ผักปวยเล้ง บล็อคโคลี และคะน้า เป็นแหล่งอุดมไปด้วยซีแซนทีน และลูทีน ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดต้อ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ
ปริมาณที่ควรได้รับ : ควรทานผักใบเขียวให้ได้อย่างน้อย 100 กรัมต่อมัน จะปรุงด้วยวิธีได้หมด หรือจะทานเป็นสลัดก็ได้
3. ส้ม
ส้มอุดมด้วยวิตามิน ซี มีผลการวิจัยออกมาว่า หากคุณผู้หญิงท่านไหนได้รับวิตามินซีติดต่อกันเป็นเวลา 10 ปี มีโอกาสลดความเสี่ยงต่อการเป็นต้อได้มากถึง 64%
ปริมาณที่ควรได้รับ : ทานได้ทุกวัน นอกจากส้มแล้วมะเขือเทศและพริกหยวกแดงก็อุดมด้วยวิตามินซีเช่นกัน
4. เบอร์รี่สีดำ
ผลเบอร์รี่มีประโยชน์โดยตรงกับดวงตา ถึงขนาดที่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เหล่านักบินในสงครามจะกินผลบลูเบอร์รี่เ เพื่อให้มีสายตาที่แม่นยำ สำหรับปฏิบัติการตอนกลางคืน มีผลงานวิจัยจากห้องแล็บค้นพบว่าในผลเบอร์รี่สีดำอย่างบลูเบอร์รี่และแบล็กเบอร์รี่ อุดมด้วยสารแอนโทไซยานิน ช่วยปกป้องและชลอการเกิดต้อและจอประสาทตาเสื่อม
ปริมาณที่ควรได้รับ : ประมาณ1 ฝ่ามือพร้อมกับซีเรียลในตอนเช้า หรือปั่นรวมกับผลไม้ชนิดอื่นเป็นสมูทตี้
5. น้ำมันตับปลา
ทูน่า, ปลากะตัก, แมกเคอเรล, แซลมอน, และปลาเทราท์ เป็นปลาที่อุดมด้วยกรดโดโคซะเอกซะอีโนอิก หรือที่รู้จักในชื่อ DHA หรือโอเมกา 3 ช่วยป้องกันอาการนัยน์ตา ช่วยป้องกันจอประสาทตาเสื่อมในผู้ใหญ่
ปริมาณที่ควรได้รับ : ทานให้ได้ 2 มื้อในแต่ละสัปดาห์
6. เนื้อวัวแดง
เนื้อวัวมีส่วนประกอบที่สำคัญต่อดวงตาคือ สังกะสี ซึ่งสังกะสีจะช่วยให้ตับปล่อยวิตามิน เอ ออกมา ส่งผ่านไปถึงดวงตาได้เร็ว
ปริมาณที่ควรได้รับ : ทานเนื้อวัวให้ได้อย่างน้อย 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มถั่วอบด้วย
7. อัลมอนด์
ถั่วชนิดนี้มีวิตามิน อี อยู่มาก ช่วยป้องกันดังตาจากรังสีต่างๆ อีกทั้งยังช่วยปกป้องร่างกายจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน ที่ทำให้เกิดต้อ หรือจอประสาทตาเสื่อมในผู้สูงอายุได้อีกด้วย
ปริมาณที่ควรได้รับ : ฝานอัลมอนด์บางๆ ปริมาณ 1 ฝ่ามือ ใส่ในซีเรียลเป็นมือเช้า หรือกินเปล่าๆเป็นขนมทานเล่นก็ได้
ที่มา : www.mirror.co.uk

1 ความคิดเห็น: